เอซี มิลาน เตรียมกลับมาลงสนามในศึกกัลโช่ เซเรีย อา โดยมีเป้าหมายคือการเก็บชัยชนะให้ได้สถานเดียวเท่านั้น หลังจากผลงานช่วงหลังเริ่มมีสะดุด ทำให้สถานการณ์การลุ้นแชมป์เริ่มเข้มข้นขึ้น สเตฟาโน่ ปิโอลี่ หรือในบริบทนี้คือ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี จะนำทีมรอต้อนรับ เฮลลาส เวโรน่า ที่ซาน ซิโร่ โดยรู้ดีว่าหากพลาดท่าแพ้หรือเสมอ อาจส่งผลเสียต่อโอกาสในการคว้าแชมป์
แม้จะอยู่ในกลุ่มทีมหัวตาราง แต่ เอซี มิลาน ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาทำแต้มหลุดมือในเกมที่เจอกับทีมที่อันดับต่ำกว่า ทำให้ไม่สามารถครองความได้เปรียบในการลุ้นแชมป์ได้เต็มที่ ทำให้ตอนนี้ "ปีศาจแดงดำ" ต้องเจอกับสถานการณ์ที่ทุกนัดมีความหมาย การได้เล่นในบ้านพบกับ เวโรน่า ที่กำลังดิ้นรนหนีตกชั้น ถือเป็นโอกาสดีที่จะเรียกความมั่นใจกลับคืนมา
ผลงานล่าสุดของ มิลาน ค่อนข้างน่าผิดหวัง พวกเขาเสมอ 2-2 กับ ซัสซูโอโล่ ซึ่งเป็นทีมที่สร้างความยากลำบากให้พวกเขามาตลอด ตามด้วยการตกรอบ ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า หลังจากแพ้ นาโปลี 2-0 ที่ริยาดห์ ความพ่ายแพ้ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของทีมอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในลีกของพวกเขายังถือว่าดีอยู่ แม้ว่า อินเตอร์ มิลาน จะแซงขึ้นไปนำจ่าฝูงชั่วคราวหลังบุกไปเฉือนชนะ เจนัว แต่ มิลาน รู้ดีว่าหากพวกเขาเก็บชัยชนะได้ในสุดสัปดาห์นี้ ก็มีโอกาสที่จะกลับขึ้นไปเป็นจ่าฝูงได้อีกครั้ง ช่องว่างคะแนนระหว่างทีมหัวตารางค่อนข้างน้อย ทำให้ความสม่ำเสมอในการเจอกับทีมที่อันดับต่ำกว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง
สถิติการพบกับ เวโรน่า เป็นสิ่งที่น่าอุ่นใจสำหรับ "รอสโซเนรี่" พวกเขาไม่แพ้ เวโรน่า มาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2017 และไม่เคยแพ้ เวโรน่า ที่ซาน ซิโร่ ตั้งแต่ปี 1922 ซึ่งเป็นสถิติที่บ่งบอกถึงความเหนือกว่าอย่างชัดเจน
เฮลลาส เวโรน่า เดินทางมาเยือน มิลาน ด้วยความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น หลังจากผลงานช่วงหลังเริ่มดีขึ้น พวกเขาเริ่มแสดงให้เห็นถึงความเหนียวแน่น และขยับหนีจากตำแหน่งบ๊วยของตารางได้สำเร็จ
ชัยชนะเหนือ ฟิออเรนติน่า จากประตูชัยในช่วงท้ายเกม ช่วยเพิ่มกำลังใจให้กับทีมอย่างมาก ทำให้ เวโรน่า ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 18 และจุดประกายความหวังในการอยู่รอดต่อไปได้ ชัยชนะดังกล่าวทำให้ เวโรน่า เก็บชัยชนะในลีกได้ 2 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2024
อย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์ไม่ได้เป็นใจให้พวกเขา เวโรน่า แพ้ มิลาน มา 9 นัดติดต่อกัน และไม่เคยได้แต้มจาก "รอสโซเนรี่" เลยนับตั้งแต่ปี 2017 สถิติส่วนตัวของ เปาโล ซานเซ็ตติ ในการเจอกับ มิลาน ก็ไม่ดีนัก เขาไม่เคยเอาชนะ มิลาน ได้เลยในการคุมทีม 6 นัด แต่เขาก็เคยเอาชนะ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี มาได้แล้ว 1 ครั้งสมัยที่คุมทีม เอ็มโปลี
แม้ว่า เวโรน่า จะมีความมั่นใจจากผลงานที่กระเตื้องขึ้น แต่การบุกมาเยือน มิลาน และต้องการยุติสถิติที่ไม่ดีในการเจอกัน ถือเป็นเรื่องที่ยากลำบาก มิลาน น่าจะเป็นฝ่ายครองบอลและบุกมากกว่า ส่วน เวโรน่า น่าจะเน้นเกมรับและรอสวนกลับ
เวโรน่า อาจพยายามเล่นเกมรับและชะลอเกม แต่การโดน มิลาน บุกกดดันอย่างต่อเนื่องที่ซาน ซิโร่ มักจะเป็นเรื่องยากสำหรับทีมที่อยู่ในกลุ่มท้ายตาราง ด้วยความที่ มิลาน ต้องการแต้มอย่างมาก และมีขุมกำลังที่แข็งแกร่งกว่า รวมถึงมีสถิติที่ดีกว่าในการเจอกัน ทำให้เกมนี้เป็นโอกาสดีที่พวกเขาจะเรียกความมั่นใจกลับคืนมา และแสดงให้เห็นว่าพวกเขายังเป็นทีมที่มีลุ้นแชมป์ The Hard Tackle จะมาวิเคราะห์แผนการเล่นที่คาดว่าจะถูกนำมาใช้ในเกมนี้
เอซี มิลาน ต้องเจอกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความฟิตของนักเตะคนสำคัญอย่าง ราฟาเอล เลเอา ที่ได้รับบาดเจ็บจากเกมที่ มิลาน เฉือนชนะ โตริโน่ 3-2 เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ปีกชาวโปรตุกีสรายนี้ยังต้องรอประเมินอาการก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะสามารถลงเล่นได้หรือไม่
หาก เลเอา ไม่สามารถลงเล่นได้ เขาจะพลาดลงสนามร่วมกับ มัตเตโอ กับเบีย ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บที่เข่า และ ซานติอาโก้ กิเมเนซ ที่ยังอยู่ในช่วงพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า การขาดหายไปของพวกเขาจะทำให้ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี มีตัวเลือกในแนวรุกค่อนข้างจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ริมเส้น ซึ่งอาจทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนแผนการเล่น
หากไม่มี เลเอา คาดว่า คริสเตียน พูลิซิช จะต้องแบกรับภาระในแนวรุกมากขึ้น กองหน้าทีมชาติสหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ทำผลงานได้สม่ำเสมอที่สุดของ มิลาน ในฤดูกาลนี้ โดยทำไป 7 ประตู กับ 2 แอสซิสต์ในเซเรีย อา มีเพียง เลาตาโร่ มาร์ติเนซ กองหน้าของ อินเตอร์ เท่านั้นที่มีส่วนร่วมในการทำประตูมากกว่าเขา
คาดว่าเจ้าบ้านจะมาในระบบ 3-5-2 ซึ่งจะช่วยให้ทีมมีความแข็งแกร่งในเกมรับ ในขณะเดียวกันก็มีความยืดหยุ่นในแดนกลางและแนวรุก ไมค์ เมญอง จะลงเฝ้าเสา
แผงกองหลังสามคนน่าจะประกอบไปด้วย ฟิคาโย่ โทโมริ, โคนี่ เดอ วินเทอร์ และ สตราฮินย่า พาฟโลวิช โทโมริ มีความเร็วและความดุดัน ทำให้ มิลาน สามารถดันแนวรับขึ้นสูงได้ ในขณะที่ เดอ วินเทอร์ และ พาฟโลวิช จะเข้ามาสร้างสมดุลและความแข็งแกร่งในพื้นที่ตรงกลาง
ในแดนกลาง คาดว่า อเล็กซิส ซาเลอมาแกร์ส จะประจำการทางฝั่งขวา โดยมี รูเบน ลอฟตัส-ชีค และ อาเดรียง ราบิโอต์ เป็นคู่มิดฟิลด์ตัวกลาง ร่วมกับ ลูก้า โมดริช ที่จะได้ทำหน้าที่ควบคุมจังหวะเกมของทีม การยืนตำแหน่งของเขาจะเป็นสิ่งสำคัญในการเจาะแนวรับของ เวโรน่า
ดาวิเด้ บาร์เตซากี้ จะทำหน้าที่ทางฝั่งซ้าย คอยเชื่อมเกมและสนับสนุนแนวรุกจากริมเส้น ส่วนคู่กองหน้า คาดว่าจะเป็น คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู จับคู่กับ คริสเตียน พูลิซิช ซึ่งทั้งคู่จะใช้ความสามารถในการเคลื่อนที่, เพรสซิ่ง และทักษะส่วนตัว เพื่อสร้างความปั่นป่วนให้กับแนวรับของ เวโรน่า
การจัดทีมแบบนี้จะช่วยให้ เอซี มิลาน สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่นได้อย่างลื่นไหล ระหว่าง 5-3-2 ในการตั้งรับ และ 3-2-5 ในการครองบอล ซึ่งจะทำให้ อัลเลกรี มีความยืดหยุ่นในการเล่นมากขึ้น
รายชื่อ 11 ตัวจริงที่คาด (3-5-2): เมญอง; โทโมริ, เดอ วินเทอร์, พาฟโลวิช; ซาเลอมาแกร์ส, ลอฟตัส-ชีค, โมดริช, ราบิโอต์, บาร์เตซากี้; เอ็นกุนกู, พูลิซิช
เฮลลาส เวโรน่า เจอปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายราย ทำให้ เปาโล ซานเซ็ตติ มีตัวเลือกจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแนวรุก โจวานี่ ที่ได้รับบาดเจ็บจากเกมที่แพ้ ฟิออเรนติน่า ยังต้องรอประเมินอาการ การขาดหายไปของเขาถือเป็นเรื่องเสียหาย เพราะเขาเป็นผู้เล่นที่มีอิทธิพลในแนวรุก
หาก โจวานี่ ไม่สามารถลงเล่นได้ เขาจะพลาดลงสนามร่วมกับ ฌอง-ดาเนียล อัคปา อัคโปร ที่ยังคงบาดเจ็บ รวมถึง โดมากอย บราดาริช และ โธมัส ซูสลอฟ ก็ไม่พร้อมลงสนาม นอกจากนี้ เวโรน่า ยังไม่มี มาร์ติน เฟรส และ ราฟิค เบลกาฮลี ที่ติดโทษแบน
การขาดหายไปของ เบลกาฮลี อาจไม่ส่งผลกระทบมากนัก เนื่องจากเขาติดภารกิจรับใช้ชาติกับทีมชาติแอลจีเรีย ในศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ อย่างไรก็ตาม เวโรน่า ยังมีทีเด็ดในแนวรุกอย่าง กิฟท์ ออร์บาน ซึ่งเป็นผู้ทำประตูสูงสุดของทีมในลีก โดยทำไป 4 ประตู
เฮลลาส เวโรน่า คาดว่าจะยังคงใช้ระบบ 3-5-2 โดยมี ลอเรนโซ่ มอนติโป เป็นผู้รักษาประตู
แผงกองหลังสามคนน่าจะประกอบไปด้วย อูไน นูเญซ, วิคเตอร์ เนลสัน และ อาร์เมล เบลล่า-ค็อทชัป โดยมี เนลสัน เป็นตัวหลักในการบัญชาเกมรับ
วิงแบ็กทั้งสองฝั่งน่าจะเป็น นิโคลัส วาเลนตินี ทางฝั่งขวา และ อัล-มูสราติ ทางฝั่งซ้าย ส่วนแดนกลาง คาดว่า ชีค นียาสเซ่ จะได้ลงเล่นร่วมกับ โรแบร์โต้ กายาร์ดินี่ และ อองตวน แบร์นาเด
คู่กองหน้า คาดว่าจะเป็น กิฟท์ ออร์บาน จับคู่กับ ดาเนียล มอสเกร่า
รายชื่อ 11 ตัวจริงที่คาด (3-5-2): มอนติโป; นูเญซ, เนลสัน, เบลล่า-ค็อทชัป; วาเลนตินี, นียาสเซ่, กายาร์ดินี่, แบร์นาเด, อัล มูสราติ; ออร์บาน, มอสเกร่า
คริสเตียน พูลิซิช กลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญของ เอซี มิลาน ในฤดูกาลนี้ ด้วยผลงาน 7 ประตู กับ 2 แอสซิสต์
สิ่งที่ทำให้ พูลิซิช อันตรายเป็นพิเศษคือความสารพัดประโยชน์ของเขา ไม่ว่าเขาจะถูกใช้งานในพื้นที่ริมเส้น หรือขยับเข้ามาในพื้นที่ตรงกลาง เขาก็สามารถทำผลงานได้ดี เขาเคลื่อนที่ได้ดี และสามารถเปลี่ยนโอกาสเล็กๆ น้อยๆ ให้กลายเป็นโอกาสทำประตูได้
การเจอกับ เฮลลาส เวโรน่า ที่น่าจะมาเน้นเกมรับ พูลิซิช จะมีบทบาทสำคัญอย่างมาก หาก มิลาน ต้องการเจาะแนวรับของ เวโรน่า และรักษาโอกาสในการลุ้นแชมป์เอาไว้ พูลิซิช จะต้องงัดฟอร์มเก่งออกมาให้ได้
เอซี มิลาน มีความได้เปรียบในเรื่องของขุมกำลัง และสถิติในการเจอกับ เฮลลาส เวโรน่า แม้ว่าทีมเยือนจะมีความเหนียวแน่นขึ้น แต่การที่พวกเขาต้องเจอกับปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ ทำให้การมาเยือนซาน ซิโร่ เป็นเรื่องที่ยากลำบาก มิลาน น่าจะเป็นฝ่ายครองบอล และสร้างโอกาสได้มากกว่า และด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของ คริสเตียน พูลิซิช ทำให้เชื่อว่า มิลาน จะเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะไปได้